กระทุ่มบก

Mitragyna javanica Koord. & Valeton

Mitragyna javanica Koord. & Valeton

ชื่อวงศ์พรรณไม้

  • RUBIACEAE

ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 16-27 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ลำต้นเปลาตรง มีการลิดกิ่งเองตามธรรมชาติ กิ่งตั้งฉากกับลำต้น เปลือกสีเทาปนน้ำตาลค่อนข้างเรียบ เนื้อไม้สีเหลืองอ่อน ใบ: ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ๆ กว้างประมาณ 5-12 เซนติเมตร ยาว 10-24 เซนติเมตร ปลายใบมนหรือเป็นติ่งแหลม โคนใบป้าน เนื้อใบค่อนข้างหนา หลังใบมีขนสากๆและมีสีเข้มกว่าท้องใบ ท้องใบมีขนนุ่มและจะหลุดร่วงไปเมื่อใบแก่ เส้นแขนงใบมี 7-14 คู่ เห็นชัดทั้งสองด้านดอก: ออกเป็นช่อกลมคล้ายลูกตุ้ม ดอกย่อยขนาดเล็ก สีเหลืองอ่อนหรือเหลืองแกมส้ม ผล: เป็นแท่ง ขนาดเล็ก ออกเบียดชิดกันอยู่บนฐานรองช่อดอก

การนำไปใช้ประโยนชน์

เนื้อไม้นำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างบ้าน ทำเครื่องเรือนหรือใช้ในการทำเยื่อและกระดาษ

แหล่งที่พบ

ทางเข้าอาคารหอพัก โซน B

แก้ว

ตะไหลแก้ว แก้วพริก จ๊าพริก (เหนือ) แก้วลาย (สระบุรี) แก้วขี้ไก่ (ยะลา) แก้วขาว (กลาง)

Murraya paniculata (L.) Jack

ชื่อวงศ์พรรณไม้

  • RUTACEAE

เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ไม่ผลัดใบ สูง 3-8 เมตร ลำต้นมักคดงอและบิด เปลือกสีขาว แตกเป็นร่องตื้นเล็กๆ ใบ: ใบประกอบ เรียงเวียนสลับ มีใบย่อย 3-7 ใบ ติดตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อย ใบคู่ล่างมีขนาดเล็กกว่าคู่ที่อยู่เหนือขึ้นไป รูปไข่แกมรี และรูปข้าวหลามตัดเอียง ผิวใบเขียวเข้มเป็นมัน ขอบใบเรียบ หรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ดอก: สีขาว กลิ่นหอม ออกเป็นดอกเดี่ยวหรือช่อ ช่อละ 2-5 ดอก กลีบรองดอกขนาดเล็ก มี 5 แฉก กลีบดอกมี 5 กลีบ รูปรีหรือรูปขอบขนาน บานกลางคืน ขณะบานกลีบจะม้วนออกด้านนอก กลีบหลุดง่าย เกสรเพศผู้มี 10 อัน ยาว 5 อัน สั้น 5 อัน เรียงสลับเป็นวงกลมล้อมรอบรังไข่ ผล: รูปไข่ มีเนื้อเยื้อหุ้ม ยาวไม่เกิน 2 เซนติเมตร ผลแก่ออกสีส้มปนแดง ภายในมี 1-2 เมล็ด

การนำไปใช้ประโยนชน์

เนื้อไม้ลายมัน สวยงาม มีน้ำมันในเนื้อไม้ นิยมใช้ทำเครื่องตกแต่งบ้าน ด้ามเครื่องมือ ไม้บรรทัด ด้ามปากกา ซอด้วง ซออู้ ใบปรุงเป็นยาขับระดูที่เรียกว่ายาประสะใบแก้ว และใช้เป็นยาระบายลม แก้จุกเสียแน่นเฟ้อ

แหล่งที่พบ

ด้านข้างศาลาสารภีคู่ โซน C

กระพี้จั่น

จั่น (กลาง, สุโขทัย) ปี้จั่น (ภาคเหนือ), พี้จั่น (กลาง, จันทบุรี)

Millettia brandisiana Kurz

ชื่อวงศ์พรรณไม้

  • LEGUMINOSAE-PAPILIONOIDEAE

ไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 8–20 เมตร เปลือกสีเทา ใบ: เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเวียนสลับ ใบย่อย รูปรีแกมขอบขนาน ปลายใบทู่ โคนใบมนหรือสอบเบี้ยวเล็กน้อย ขอบเรียบ หลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสีจาง ใบแก่เกลี้ยง มีขนประปรายตามเส้นกลางใบด้านล่าง ดอก: รูปดอกถั่ว สีขาวปนม่วง ออกดอกเป็นช่อตามง่ามใบ ออกดอกระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ผล: เป็นฝักแบน โคนแคบกว่าปลาย เปลือกเกลี้ยงหนาคล้ายแผ่นหนัง ขอบเป็นสัน เมล็ดสีน้ำตาลดำ นิเวศวิทยา พบกระจายในแถบเอเชียเขตร้อน ในประเทศไทยพบบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นได้ในสภาพดินทุกชนิด ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง ทนแล้งได้ดี

การนำไปใช้ประโยนชน์

อาคารสำนักงานอนุบาลลอออุทิศ โซน D

แหล่งที่พบ

อาคารสำนักงานอนุบาลลอออุทิศ