ต้น: ลำต้นเดี่ยว สูงประมาณ 15 เมตร ลำต้นตั้งตรง เกลี้ยง เรียว ใบ: เป็นรูปพัด สีเขียวอ่อนและเป็นมัน ใต้ใบเป็นสีเงินนิดๆ ขนาดของใบกว้างประมาณ 1.5 เมตร ทางใบยาว 90 เซนติเมตร ดอก: ออกดอกเป็นช่อๆ ดอกสีเหลืองอมน้ำตาล ช่อหนึ่งจะมีดอกเป็นจำนวนมาก แต่เป็นดอกที่ไม่สมบูรณ์เพศ ผล: ผลกลม มีขนาดเล็กประมาณ 1 เซนติเมตร ผลสุกมีสีดำ ข้างในผลจะมีเมล็ด 1 เมล็ด
ใช้เป็นไม้ประดับสวนทั่วไป
ไม้ยืนต้นสูง 6-15 เมตร เปลือกต้นสีเทา ขรุขระ กิ่งก้านค่อนข้างอ่อน ใบ: เป็นใบประกอบแบบขนนก 2-3 ชั้น เรียงตรงข้าม ใบย่อยรูปไข่แกมใบหอก กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร ดอก: ดอกช่อขนาดใหญ่ ออกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยกลีบดอกสีขาวเป็นหลอด ยาว 5-8 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลิ่นหอม ผล: เป็นฝักแบน เมื่อแก่จะแตกตามรอยตะเข็บ ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ตำรายาไทยใช้ดอกแห้งมวนเป็นบุหรี่สูบแก้หืด รากบำรุงปอด แก้หอบ ในดอกมีสาร hispidulin ซึ่งระเหยได้และมีฤทธิ์ขยายหลอดลมได้ดีกว่า amino-phylline ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาหืด เนื้อไม้อ่อนมีสีเหลือง นิยมใช้ประกอบเป็นเครื่องเรือนประดับบ้าน
ลำต้นขนาดเล็ก ขึ้นเป็นกอแน่น มีความสูงประมาณ 7-15 เมตร ส่วนโคนมีเนื้อหนาเกือบตัน ที่ปลายลำมีเนื้อบาง ลำมีสีเขียวอมเทา ปล้องจะยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร โดยปกติเนื้อจะหนา กาบหุ้มลำยาวประมาณ 22-28 ซนติเมตร กว้างประมาณ 11-20 ซนติเมตร กาบมักจะติดต้นอยู่นาน สีเป็นสีฟาง ด้านหลังปกคลุมด้วยขนอ่อนสีขาว มีร่องเป็นแนวเล็ก ๆ สอบขึ้นไปหาปลาย ครีบกาบมีรูปสามเหลี่ยม อาจจะเห็นไม่ชัดก็ได้ กระจังกาบมีเล็กน้อยและหยักไม่สม่ำเสมอ ใบยอดกาบยาวประมาณ 10-12 ซนติเมตร เป็นรูปสามเหลี่ยมมุมแหลม ยาวและแคบ ขอบงอโค้งเข้า
ใบรสขื่น เฝื่อน ขับและฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย ขับระดูขาว แก้มดลูกอักเสบ ขับปัสสาวะ ตามีรสเฝื่อน เข้ายาใช้แก้ฝีหนองภายในต่างๆ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข้พิษ ไข้กาฬ ราก รสกร่อย เอียนเล็กน้อย ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ ขับนิ่ว ใช้เข้ายาขับระดู แก้หนองในและฝีหนองที่เกิดในร่างกาย