เงาะป่า (เชียงใหม่, นราธิวาส) พรวน(ปัตตานี) กะเมาะแต มอแต อาเมาะแต (มาเลย์ ปัตตานี)
Nephelium lappaceum L.
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านใบ: ใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยรูปโค้ง หรือรูปไข่กลับ ดอก: ดอกช่อ ออกที่ปลายยอดเป็นกลุ่มย่อย ช่อดอกมีกิ่ง แขนง ดอกย่อยออกเป็นกลุ่มมีสีนวลอ่อนๆ ผล: รูปร่างกลมรี มีขนยาว เมื่อยังไม่สุกขนและผิวมีสีเขียว เมื่อสุกบางพันธุ์ผิวผลและขนมีสีแดง บางพันธุ์ผิวผลแดงขนมีสีเขียวอมเหลือง เนื้อสีขาวมีรสหวาน หรือหวานอมเปรี้ยว เมล็ดเป็นรูปขอบขนาน คลุมด้วยเนื้อเยื่อใสสีขาว
ผลสุกรับประทานเป็นผลไม้ ทำผลไม้กระป๋อง ทำแยม ทำน้ำผลไม้ เนื้อเงาะมีน้ำตาลสูง มีแร่ธาตุและวิตามินซี ส่วนเปลือกผลมีรสฝาด มีสารแทนนินและอื่นๆใช้เป็นยา เปลือกต้นแก้ท้องร่วง สมานแผลฝาด สมานพวกที่เป็นโรคลิ้น เปลือกเงาะใช้เป็นยาขับพยาธิ ใบเป็นยาพอก ผลแก้บิด แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้ไข้ บำรุงกำลังและบำรุงร่างกาย เมล็ดทำให้หลับ
ฉำฉา (กลาง, เหนือ) ก้ามกราม (ภาคกลาง) ก้ามปู (กทม., พิษณุโลก) สำสา (เหนือ)
Samanea saman (Jacq.) Merr.
ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 10 – 20 เมตร แผ่พุ่มกว้างคล้ายร่มใบ: เป็นใบประกอบแบบขนนก แกนกลางใบประกอบและก้านใบประกอบออกตรงข้ามกัน ใบย่อยรูปไข่หรือรูปรีหรือคล้ายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปลายใบมน ขอบใบเรียบ หลังใบเกลี้ยง ดอก: ออกเป็นช่อรวมเป็นกระจุกตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่ง สีชมพูอ่อน โคนดอกสีขาว
เนื้อไม้มีแก่นสีดำคล้ำสวยงาม เมื่อขัดตกแต่งจะขึ้นเงาแวววาวเป็นที่ต้องการ ใบรสเย็นเมา ทำให้เย็นดับพิษ แก้ปวดแสบปวดร้อน เมล็ดรสฝาด แก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อน แก้เยื่อตาอักเสบ เปลือกต้นรสฝาด สมานแผลในปากคอ แก้โรคเหงือกบวม แก้ปวดฟัน แก้ริดสีดวงทวารหนัก แก้โลหิตตกใน
ไม้ยืนต้นสูง 8-15 เมตร ใบ: เป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับ รูปไข่กว้างหรือรูปรี กว้าง 4-10 เซนติเมตร ยาว 10-25 เซนติเมตร โคนกลมมนหรือสอบ ปลายแหลม ก้านใบยาว 2-4 เซนติเมตร ดอก: สีเหลืองแกมส้ม กลีบดอกมี 10-15 กลีบ กลีบชั้นนอกรูปหอกกลับโคนแคบ กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 4-4.5 เซนติเมตร เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจำนวนมาก ผล: เป็นผลกลุ่ม รวมอยู่บนแกนยาว 6-9 เซนติเมตร ก้อนผลรูปไข่หรือค่อนข้างกลม ขนาด 1.5-2 เซนติเมตร มีแผลระบายอากาศ เป็นจุดด่างสีขาว เมื่อแก่จะแตกออกด้านข้าง
นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ให้ดอกหอม เนื้อไม้แข็ง ใช้ในการก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน ทำเกวียน โลงศพและเครื่องดนตรี ดอกเป็นยาบำรุงหัวใจ